กฎหมายที่ควบคุมปริมาณน้ำมันที่ผู้บริโภคต้องได้รับในการเติมน้ำมัน การบังคับใช้ และบทลงโทษทางกฎหมาย
อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด (Maximum Permissible Errors: MPE) เป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน สังกัดกระทรวงพาณิชย์ โดยตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ หมายถึง ค่าความคลาดเคลื่อนสูงสุดที่ยอมให้มีระหว่างค่าที่อ่านได้จากเครื่องมือวัดกับค่าที่แท้จริงของปริมาณที่ทำการวัด
ค่าอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการผลิต การใช้งาน และการตรวจสอบเครื่องมือวัดต่างๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ และการผลิต ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
การวัดปริมาณในทางปฏิบัติมีข้อจำกัดหลายเรื่องที่อาจส่งผลต่อความแม่นยำของการวัด เช่น เครื่องมือ ความผันแปรของสิ่งที่วัด รวมถึงความคลาดเคลื่อนจากผู้ทำการวัด
อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด (Maximum Permissible Errors: MPE) จึงเป็นหลักการที่กำหนดขึ้นมาและถูกใช้ในระดับสากลเพื่อสะท้อนข้อจำกัดเหล่านี้ โดยกำหนดขอบเขตที่ยอมรับได้ของความคลาดเคลื่อน เพื่อให้การวัดยังคงมีความหมายและสามารถนำไปใช้งานได้จริง
ความจริงแล้ว อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดไม่ไช่หลักการที่ถูกใช้แค่ในอุตสาหกรรมน้ำมัน แต่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งสามารถพบเห็นได้สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน เช่น
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าในชีวิตประจำวันอีกมากมายที่อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดถูกใช้เพื่อควบคุมให้ปริมาณของสินค้าที่แสดงต่อผู้บริโภค กับปริมาณสุทธิเที่ยงตรง ถูกต้องเป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยมีสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน (DIT) เป็นผู้กำกับดูแล
ในต่างประเทศมีการกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด (Maximum Permissible Errors: MPE) เช่นเดียวกับประเทศไทย หลายประเทศมีหน่วยงานและมาตรฐานที่กำหนดค่า MPE เพื่อควบคุมและตรวจสอบความถูกต้องของการวัดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์และบริการมีคุณภาพตามที่กำหนด
ในสหรัฐอเมริกา การกำหนดมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจสอบและควบคุมเครื่องมือวัดต่าง ๆ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานชื่อว่า National Institute of Standards and Technology (NIST) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โดยมีหน้าที่กำหนดและส่งเสริมมาตรฐานการวัดในระดับประเทศ
NIST จะจัดทำเอกสารคู่มือมาตรฐานการตรวจสอบและควบคุมเครื่องมือวัดที่เรียกว่า NIST Handbook 44 โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้มีมาตรฐานที่ครอบคลุมและเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ซึ่งในคู่มือดังกล่าวมีการกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไว้ดังตารางด้านล่าง (NIST Handbook 44)
ในสหภาพยุโรป (European Union) มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับเครื่องมือวัดที่ใช้ในการค้าที่เรียกว่า Measuring Instruments Directive (MID) 2014/32/EU โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือวัดที่วางจำหน่ายในตลาด EU มีความแม่นยำ น่าเชื่อถือ และเป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรวิทยาที่จำเป็น
MID ครอบคลุมเครื่องมือวัดที่หลายประเภท รวมถึงมาตรวัดน้ำ มาตรวัดก๊าซ เครื่องวัดความร้อน เครื่องวัดไฟฟ้า เครื่องชั่ง และอื่น ๆ โดยสำหรับของเหลว ซึ่งรวมถึงการวัดน้ำมัน มีการกำหนดค่าอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ดังตารางด้านล่าง (MID 2014/32/EU)
สำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน สังกัดกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้มีค่าความคลาดเคลื่อนของอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับสถานีบริการน้ำมัน 2 ค่า ดังนี้
ไม่เป็นความจริง การคลาดเคลื่อนในอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นทวีคูณตามปริมาณที่คลาดเคลื่อน การตรวจสอบแต่ละครั้งจากหัวจ่ายเดียวกันสามารถคลาดเคลื่อนได้ในทั้งทางบวกและทางลบ เช่น
นอกจากนี้ ปริมาณที่แตกต่างกันอาจพบการคลาดเคลื่อนไม่เท่ากันได้ด้วย เช่น
การคลาดเคลื่อนจึงเกิดได้ทั้งบวกและลบในการตรวจสอบแต่ละครั้ง ดังนั้น ในการจ่ายน้ำมันแต่ละครั้ง ของแต่ละหัวจ่าย ในแต่ละปริมาตร มีโอกาสที่จะคลาดเคลื่อนได้ในทั้งทางบวกและทางลบ ไม่ได้มีการคลาดเคลื่อนในลักษณะทวีคูณตามปริมาตรในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ไม่ได้โดยเด็ดขาด การกระทำใด ๆ กับมาตรวัดน้ำมันที่อาจทำให้ปริมาณการจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อน แม้จะเป็นการกระทำเพื่อแก้ไขซ่อมแซม แต่ดำเนินการโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักชั่งตวงวัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ดังนั้น การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับมาตรวัดน้ำมัน ต้องดำเนินการโดยสำนักชั่งตวงวัดและผู้ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักชั่งตวงวัดเท่านั้น
การใช้หัวจ่ายน้ำมันที่ไม่มีคำรับรอง/คำรับรองสิ้นอายุ และการจ่ายน้ำมันคลาดเคลื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการดัดแปลงหัวจ่ายน้ำมันหรือเครื่องชั่งตวงวัดใดๆ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
ปั๊มน้ำมันได้รับการตรวจหัวจ่ายบ่อยแค่ไหน
ปั๊มน้ำมันได้รับการตรวจหัวจ่ายบ่อยแค่ไหน
สำหรับการตรวจสอบเพื่อออกคำรับรอง เจ้าหน้าที่สำนักชั่งตวงวัดจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมัน โดยใช้ถังตวงที่มีปริมาตร 5 ลิตร และ 20 ลิตร ตรวจสอบความถูกต้องของมาตรวัดหัวจ่ายน้ำมันด้วยวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรวัดอยู่ในสภาพใช้การได้ ภายใต้อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กำหนด โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้
สถานีบริการต้องตรวจสอบความคลาดเคลื่อนของการจ่ายน้ำมันอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน พร้อมทำบันทึกส่งให้เจ้าหน้าที่สำนักชั่งตวงวัดโดยใช้ถังตวง 5 ลิตรแบบมาตรฐาน ตรวจสอบหัวจ่ายทุกหัว โดยใช้วิธีการตรวจสอบดังนี้
ในประเทศไทย ทุกสถานีบริการน้ำมันจะต้องเลือกใช้ตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากบริษัทที่ได้รับการรับรอง การเลือกใช้ตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีบริการน้ำมันต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:
สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยต้องเลือกใช้ตู้จ่ายน้ำมันจากบริษัทที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมธุรกิจพลังงาน และตรวจสอบโดยสำนักชั่งตวงวัดแล้วเท่านั้น
ดังนั้น ตู้จ่ายน้ำมันในประเทศไทยของทุกสถานีบริการน้ำมัน จึงมีตามมาตรฐานและคุณภาพเดียวกันตามข้อกำหนดที่กำหนดโดยกรมธุรกิจพลังงานและสำนักงานชั่งตวงวัด
PTT Oil and Retail Business Public Company Limited
555/2 Energy Complex Building B, 12th Floor, Vibhavadi Rangsit Rd., Chatuchak, Bangkok 10900
© 2024 OR Tel : 02 196 5959